Tuesday, July 20, 2010

Song of the Sea...


ถ้าหากมีโอกาสเดินทางมาที่สิงค์โปร แทบทุกคนที่ต้องเดินทางมาชมการแสง Song of the sea. ซึ่งเป็นละครเพลงประกอบแสง สี ให้ผู้ชมได้ชมริมทะเล ซึ่งเป็นการแสดงที่ตระการตา และเป็นที่ดึงดูดใจมากสำหรับเด็กๆ


song of the sae. ทำการแสดงที่ Sentosa , Siloso Beach โดยราคาบัตรจะอยู่ที่คนละ 10SGD หรือประมาณ 230 บาท


การแสดงนั้นจะมีการแสดงของนักแสดงที่ร้อง เล่น เต้น 3 ภาษาอังกฤษ,จีนมาเลย์และอินเดีย ซึ่งเป็นเชื้อชาติหลักในสิงคโปร์


โดยเนื้อเรื่องจะเกี่ยวกับชายหนุ่ม และกลุ่มเพื่อน เจ้าหญิงที่ใบหน้าเศร้าสร้อยกลางสายน้ำ เทพเจ้าแห่งไฟ และปลาสิงโตน้อยขวัญใจเด็กๆ


มีการแสดงสายน้ำประกอบการแสดงที่หน้าตื่นเต้น ระหว่างนั่งดูการแสดง จะมีละอองน้ำกระเซ็นมาโดนเรา ขณะนั่งชมการแสดงเป็นระยะๆ พอเป็นกระไส ไม่ถึงกับเปียกนะคะ พอแก้ร้อนได้


ภาพของเจ้าหญิงได้ปรากฏขึ้นอีกครั้งและครั้งนี้กับหน้ายิ้มที่เธอถูกปลุกด้วยเพลงสุดท้ายของทะเล

Saturday, July 17, 2010

Jumbo Seafood @ Clark Quay...



Jumbo Seafood @ Clark Quay... ร้านอาหารยอดฮิตประจำชาติใครมาสิงค์โปรแล้วไม่มาทานที่ Jumbo Seafood เหมือนมาไม่ถึงสิงค์โปรนะคะ. ร้านนี้มีหลายสาขามาก มาย แต่วันนี้เรามาทานกันที่สาขา Clark Quay ในร้านมี 2 ส่วนให้เลือกนั่งนะคะ โดยจะแบ่งเป็น .นั่งหรูๆเชิดๆ ในห้องแอร์ หรือจะเลือก นั่งชิล์ลๆริมแม่น้ำก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ ในบริเวณที่ตั้งร้านนี้จะมีร้านอาหารอื่นๆให้เลือกทานอีกหลายร้านค่ะ


Chilli Crab อาหารจานฮิต เรียกได้ว่าใครมาก็ต้องสั่งมาลองทานให้รู้ว่ารสชาดมันเป็นอย่างไง โดยตอนสั่งก็บอกน้องพนักงานเค้าไปนะจ๊ะ ว่าเราอยากได้ตัวใหญ่ตัวเล็กอย่างไง เลือกได้จ้า เพราะอย่างไงเค้าก็คิดราคาเราตามน้ำหนักอยู่แล้ว ตอนสั่งอาหารเร็จก็นั่งรอแบบใจจดใจจ่อ ว่ามันจะอร่อยขนาดไหนกันเชียวน๊าๆๆๆๆ แว๊บแรกที่ได้มา OHo........ )ปูตัวใหญ่ดีจัง หน้าตาก็ดูน่าทานมาก หน้าตาจะคล้ายๆปูผัดผงกระหรี่บ้านเราแบบที่ใส่น้ำมันพริกเผาเยอะๆ เนื้อปูออกขมนิดหน่อย ไม่หวานเหมือนปูบ้านเรา และถ้าใครสั่งอาหารประเภทปูก็จะต้องใส่เครื่องแบบเหมือนในรูปค่ะ ( hahaha ใส่ผ้ากันเปื้อนกันหมดทุกคน แต่ดูน่ารักดีค่ะ )



จานนี้เป็นปูศรีลังกาผัดพริกไทยดำ รสชาติน่าจะถูกปากคนไทยอย่างเราๆมากกว่า Chilli Crabค่ะ เนื่องจากไม่ค่อยหวานแบบ Chilli Crab ค่ะ ลองสั่งมาทานดูได้นะคะ กินปูที่นี้เค้าจะให้เราเลือกได้นะคะ ว่าจะเอาปูนึ่งขนาดกี่กรัม สั่งได้ค่ะ


สลัดแก้วมังกร กับกุ้งล๊อปเตอร์ ไข่กุ้ง อร่อยมากๆๆๆๆ นะจ๊ะ แก้วมังกรที่ทางร้านใช้มาจากประเทศเวียดนามค่ะ รสชาติหวานอมเปรี้ยวนิดๆค่ะ สตอร์เบอรี่ที่สิงค์โปร จะค่อนข้างใหญ่มากๆ และราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับเมืองไทย Comfirm!!ดังๆอีกครั้งค่ะ อร่อยมากๆๆๆๆ


จำชื่อไม่ได้นะคะ แต่ปลาหมึกหรือกุ้งผัดไข่เค็มบ้านเราอร่อยกว่า เพราะจานนี้รสชาติออกจะหวานๆ !!! สงสัยคนที่จะจะทานหวานนำ ไม่เหมือนกับคนไทยที่ทานอะไรก้ได้ ." พร้อมเสมอในการทาน .


แอบถ่ายโต๊ะข้างๆ ที่มีลูกค้าโทรมาจองโต๊ะ และสั่งอาหารรอไว้ค่ะ โดยทางร้านก็จะนำอาหารออกมาว่างก่อนลูกค้าเข้าร้านไม่เกิน 5 นาทีค่ะ เรียกได้ว่ามาถึงก็ทานกันได้เลยทีเดียว ไม่ต้องนั่งรอให้เสียอารม

Sunday, June 27, 2010

Budda Tooth Relic Temple. วัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว

Budda Tooth Relic Temple @ China Town. วัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว

วัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว เป็นวัดในพุทธศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ ซึ่งตั้งอยู่ในย่าน Chinatown ตัวอาคารสร้างเป็นแบบสถาปัตยกรรมจีน การเดินทางมาค่อนข้างสะดวกค่ะ คือสามารถนั่งรถประจำทางมาลงทีป้ายรถหน้าวัดเลยก้ได้ หรือถ้าเดินทางด้วยรถไฟฟ้าก็ลงที่สถานี Chaina Town ค่ะ แล้วเดินเข้ามาอีกนิดหน่อยก็ถึง


เมื่อเข้าถึงบริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าด้านใน จะมีมุมให้ยืมผ้านุ่ง และผ้าคลุมไหล่ สำหรับสาวๆที่อาจจะเผลอใส่ เสื้อแขนกุด กางเกงขาขั้น หรือกระโปรงสั้นเพื่อความเรียบร้อยค่ะ !!! ใช้เสร็จแล้วต้องนำมาคืืนตรงนี้ให้เรียบร้อยนะค๊า!!!

ถัดมาทางขวามือขอที่ใส่ผ้านุ่งจะเป็นที่ใส่ธูปอันนี้นะคะ หยิบขึ้นมาเพียง 1 ดอกพอนะคะ


จุดธูปเสร็จแล้วอธิฐานดีๆ แล้วปักในกระถางธูปตรงนี้นะคะ โดยกระถางธูปจะตั้งอยู่ด้านหน้าประตูชั้นใน ก่อนที่เราจะเข้าไปสู่อาคารด้านในค่ะ


เป็นอย่างไงบ้างคะบรรยากาศภายใน ในรูปนี้ดูสวยนะคะ แต่ของจริงสวยและอลังการณ์กว่าในรูปมากค่ะ และให้ความรู้สึกคล้ายๆกับวัดมังกรที่โด่งดังในเมืองไทยนะคะ


ดูชัดๆอีกทีนะคะ เก้าอีกที่ตั้งไว้นั้น สำหรับผู้ที่มาสวดมนต์และทำวัตร นะคะ โดยตอนที่ไปสักการะ ได้มีโอกาศเห็นการทำวัตรของที่นี่ด้วย นับว่าโชคดีจริงๆ


เมื่อก้าวเข้าประตูมาทางด้านซ้ายจะเป็นซุ้มให้ให้บริการเครื่องสักการะ และซุ้มในรูปเป็นซุ้มทางขวามือที่ให้บริการเช่าวัตถุมงคล


บริเวณที่วางเครื่องสักการะ ของจริง สวยกว่าในรูปมากมายค่ะ


มีราคาตั้งแต่ 5-15 SGD ทุกอย่างที่นี่จะมีใบเสร็จรับเงินออกมาให้เราในทุกครั้งที่เราทำธุรกรรมทางการเงินที่นี่นะคะ เช่น เช่าวัตถุมงคล การซื้อดอกได้สักการะ และอื่นๆที่เราให้จ่ายเป็นเงินออกไป


แบบนี้ราคา 15 SGD. เป็นแบบที่ราคาสูงที่สุดและสวยที่สุดแล้วค่ะ


สาวๆ ต้องแต่งตัวให้เรียบร้อยแบบนี้นะคะ หากใครแต่งตัวมาไม่พร้อม รับเครื่องแบบได้ที่ทางเข้าด้านหน้าค่ะมีจุดให้บริการดังรูปด้านบน และยังมีจุดให้บริการผ้าคลุมไหล่และผ้านุ่ง ที่ชั้นต่างๆในอาคารด้วยนะคะ

Tuesday, June 22, 2010

Clarke quay&Turkish Ice Cream


Clarke quay&Turkish Ice Cream ร้านไอติมแสนอร่อยที่ Clarke Quay


Central @ Clark Quay นะคะ ดูใหญ่โตดีนะคะ โดยปกติถ้าเราจะไป Clark Quay เราต้องนั่งรถมาลงที่ด้านหน้าห้างนี้ค่ะ แล้วเดินตามริมตลิ่งไปเรื่อยๆ ค่ะ ซึ่งที่จริงก็เป็นวิวตรงกันข้าม



บรรยากาศเรียบริมแม่น้ำค่ะ ซึ่งก็จะมีเด็กๆวัยรุ่น คนทำงาน และนักท่องเที่ยว มานั่งทำกิจกรรมต่างๆ กันอย่างครึกครัก


เมื่อเดินตามทางที่ผ่านมาในรูปข้างบน ก็จะเจอสะพานข้ามฝากไปยังอีกฝั่งนึงนะคะ


ที่เห็นเป็นเสาสูงๆนั้นเป็นเครื่องเล่น ชื่อว่า F5 เป็นเครื่องงเล่นที่บอกได้เลยเสียวสุดๆ บางทีคนเล่นกรีดสังดังมาก จนคนฝั่ง Central ต้องเอาใจช่วยกันยกใหญ่ และก่อนที่ผู้เล่นจะถูกเครื่องดีดขึ้นไปข้างบนจะถูกลมควันก่อนให้มองไม่เห็นอะไร หลังจากนั้นจะมีเสียงกรีดกระจายค่ะ น่าสนุกนะคะ แต่ไม่กล้าเล่น


เสนอราคาขายแบบโคน อยู่ที่ราคา 3SGD



ให้ดูหน้าร้านอีกครั้งชัดๆนะคะ ส่วนลีลาในการขายของพ่อค้า นั้นต้องไปดูกันเอาเองนะคะ

Monday, June 21, 2010

Fragrance Hotel-Sapphire


Fragrance Sapphire Hotel Price : 60 SGD/Night
วันนี้จะ Review Fragance Sapphire Hotel ซึ่งเป็นหนึ่งในจำนวนหลายๆที่ของโรงแรมในเครือของ Fragrance และเป็นโรงแรมยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งหลาย โรงแรมในเวลากลางวันนะคะ


บรรยากาศ ในยามค่ำคืน โรงแรมเดินไม่ไกลจากป้ายรถเมล์หน้าปากซอย คือประมาณ 500 เมตร และไม่ต้องกลัวว่าจะเปรี่ยวนะคะ เพราะย่านนี้คึกคักและมีของให้ทานตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน !!! มี 7 eleven อยู่ตรงป้ายรถเมล์ด้วยค่ะ



โรงแรมที่อยู่ตรงกันข้าม แอบถ่ายมาให้ดู ตอนกลางวันแอบมองข้ามไป เห็นมีป้ายเขียนไว้ มีให้เลือกพักแบบค้างคืน และ ชั่วคราวครั้งละ 1-2 hours ( เอ !!! เหมือนม่านรูดบ้านเราเลยนะ )


บริเวณ LOBBY เล็กน่ารักดีค่ะ ทางขวาจะเป็นจุดบริการ internet ส่วนทางด้านซ้ายมือจะเป็นลิฟฟ์ และห้องรับฝากกระเป๋า ซึ่งถ้าเราไปถึงก่อนเวลาเช็คอิน ก็ฝากกระเป๋าไว้ก่อน และหลังจากเช็คเอาท์ ก็ฝากกระเป๋าได้โดยแจ้งแค่เวลามารับกระเป๋า ก็สะดวกดีค่ะ สำหรับคนขึ้นเครื่องรอบดึก


จุดให้บริการ Internet ตรงด้านล่าง บริเวณ Lobby ค่ะ มีให้บริการ 2 เครื่อง แต่ว่าไม่ฟรีนะคะ ต้องสอบถามราคา ค่าใช้บริการจากทางพนักงานต้อนรับอีกครั้ง


บริเวณประตู ถ่ายมาให้ดูยืนยันว่าโรงแรมใหม่จริง และดูปลอดภัยค่ะ เผื่อสาวๆจะไปใช้บริการ


บริเวณหน้าห้องน้ำ ของห้อง Family Room คือห้องแบบนอนได้ 3คน มี2เตียงนอน ห้องนี้จะกว้างกว่าห้องธรรมดาพอสมควรเลยนะคะ


บริเวณที่เสียบ key Card และ Air Conditioner วันนี้เลขที่ออกคือ 409 ค่ะ ห้องมีหน้าต่างและเป็นห้องทางด้านหน้า วิวค่อนข้างดีกว่าห้องด้านหลัง เพราะห้องด้านหลังวิวที่มองออกไปจะเป็นคล้ายๆชุมชนแออัดนิดนึงค่ะ


ที่เล่น DVD จะคั่นกลางระหว่างเตียงทั้งสอง คือระหว่างเตียงเล็กและเตียงใหญ่


ภายในห้องน้ำค่ะ ต้องบอกว่าดีกว่าของ Fragrance Sunflower hotel ที่อยู่ตรงกันข้ามชนิด ฟ้ากะเหว กันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าแค่ขามถนนชีวิตก็เปลี่ยน P.S. คิดว่าอีกไม่นาน Fragrance Sunflower hotel คงจะ renovate ใหม่


ห้องน้ำนับว่าสะอาดและค่อนข้างดีมากๆ เมื่อเทียบกับราคานะคะ ซึ่งที่พักใน Singapore จะค่อนข้างแพงกว่าที่เมืองไทยมาก หากใครต้องการพักที่นี่ ต้องจองกันล่วงหน้าพอสมควรนะคะ เพราะเป็นโรงแรมในเครือ Fragrance ที่ดีที่สุดในย่าน Geylang

ปลั๊กไฟภายในห้องค่ะ นักท่องเที่ยวอย่างเราหมดปัญหาเรื่องชนิดของเต้ารับได้ค่ะ ไม่ว่าจะมาจากไหน เต้ารับที่นี่รองรับได้หมดค่ะ แต่ถ้าเป็นที่อื่น ก็สามารถขอยืมหัวแปลงจากทางโรงแรมได้นะคะ

Saturday, June 19, 2010

Welcome to Singapore Mania.

Welcome to Singapore Mania Blog. Here you can read more and find more information about People, Place, Food , Travel, Hotel and etc... in Singapore. Hope you're happy when visited here.

Please come again to read more about best experience in Singapore.

Start your experience on the Singapore Mania.